ฟาดีคือใคร? เรื่องราวเบื้องหลังชื่อขีปนาวุธของฮิซบุลเลาะห์

ฟาดี ฮัสซัน ทาวิล เป็นนักรบของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ที่เสียชีวิตในปี 1987 (ภาพ: จากโซเชียลมีเดีย)

เมื่อวันอาทิตย์ 22 ก.ย.67 กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนได้ประกาศการโจมตีทางอากาศโดยใช้ขีปนาวุธที่มีชื่อว่า Fadi-1 และ Fadi-2 ซึ่งถูกยิงไปยังฐานทัพและสนามบินรามัตเดวิดในอิสราเอล หลายสิบลูก คำถามที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ ขีปนาวุธเหล่านี้ถูกตั้งชื่อตามใคร?

กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการตอบโต้ต่อการโจมตีซ้ำๆ ของอิสราเอลที่สร้างความสูญเสียให้กับพลเรือนในเลบานอน

ขีปนาวุธรุ่น Fadi-1 มีขนาด 220 มม. และสามารถยิงได้ในระยะ 80 กม. ส่วน Fadi-2 มีขนาด 302 มม. และมีพิสัยการยิง 105 กม. อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นไม่มีระบบนำวิถีที่แม่นยำ แต่เน้นการโจมตีโดยตรงเพื่อตอบโต้การรุกรานทางอากาศของอิสราเอล

ฟาดี ฮัสซัน ทาวิล: ชายเบื้องหลังชื่อขีปนาวุธ

ขีปนาวุธ Fadi-1 และ Fadi-2 ได้รับการตั้งชื่อตาม ฟาดี ฮัสซัน ทาวิล หนึ่งในนักรบของฮิซบุลเลาะห์ที่กลายเป็นตำนาน เขาเกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 1969 ในย่านเบรุตตะวันตก แต่ครอบครัวของเขามีถิ่นกำเนิดจากเมือง Khirbet Selem ทางตอนใต้ของเลบานอน

ฟาดีเข้าร่วมการต่อสู้กับกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในปี 1982 ขณะที่อิสราเอลกำลังยึดครองพื้นที่ในเลบานอนตอนใต้ เขาเป็นที่รู้จักจากความกล้าหาญและความมุ่งมั่นในภารกิจที่สำคัญหลายครั้ง ทั้งการลาดตระเวน ซุ่มโจมตี และปฏิบัติการต่อต้านกองกำลังอิสราเอล

เขาถูกสังหารเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1987 ระหว่างปฏิบัติการบาดร์ อัลกุบรอ” (Badr Al-Kubra) ซึ่งมีเป้าหมายในการโจมตีฐานที่มั่นของกองกำลังอิสราเอลและพันธมิตรในเลบานอน ร่างของฟาดีถูกทิ้งไว้ในสนามรบนานถึงแปดวันก่อนที่จะได้รับการนำไปฝังอย่างสมเกียรติ

นอกจากฟาดีแล้ว พี่ชายของเขาคือ วิสซัม อัล ทาวิล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ ซึ่งเสียชีวิตในการสู้รบกับอิสราเอลในปฏิบัติการพายุอัลอักซอที่กำลังดำเนินอยู่นี้ ทั้งสองพี่น้องกลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ของเลบานอน

การที่กลุ่มฮิซบุลเลาะห์นำชื่อของฟาดีมาตั้งเป็นชื่อขีปนาวุธนี้ เป็นการสื่อถึงความกล้าหาญและจิตวิญญาณการต่อสู้ของฟาดีที่ยังคงมีอิทธิพลและเป็นแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มต่อต้านในปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ชื่อของฟาดียังคงอยู่ในความทรงจำของนักสู้รุ่นใหม่ และถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การต่อสู้ของเลบานอน

 

อ้างอิง
https://www.palestinechronicle.com