หนังสือพิมพ์ฮาอาเร็ตส์ของอิสราเอลรายงานเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) อ้างว่า นักรบจำนวน 40,000 คนจากสามประเทศอาหรับได้มาถึงบริเวณใกล้กับที่ราบสูงโกลานของซีเรียที่ถูกยึดครอง เพื่อเตรียมพร้อมสนับสนุนฮิซบอลเลาะห์ต่อสู้กับกองทัพอิสราเอลในปัจจุบัน
ฮาอาเร็ตส์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงที่ไม่เปิดเผยตัวตนว่า “เจ้าหน้าที่ใน IDF [กองทัพอิสราเอล] ได้ติดตามด้วยความกังวลเกี่ยวกับนักรบรับจ้างจำนวน 40,000 คนที่มาจากหลายประเทศ รวมถึงอิรัก เยเมน และซีเรียเอง”
รายงานระบุว่านักรบเหล่านี้อยู่ใน “บริเวณที่ราบสูงโกลัน” และกำลังรอคำสั่งจากฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ เลขาธิการกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ให้เข้าร่วมการสู้รบ หนังสือพิมพ์ฉบับนี้รายงาน โดยไม่ได้อ้างหลักฐานใดๆ ที่จะสนับสนุนคำกล่าวอ้างของแหล่งข่าวในกองทัพอิสราเอล
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า “ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่นักรบระดับชั้นยอด แต่กองกำลังนุคบา (Nukhba) ก็ไม่ใช่เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เราก็ได้เห็นว่ากองกำลังมือปืนจำนวน 2,000 ถึง 3,000 นายสามารถทำอะไรได้บ้างเมื่อพวกเขาโจมตีและสร้างความปั่นป่วนให้กับชุมชนหนึ่งๆ” หนังสือพิมพ์ฉบับนี้รายงานโดยอ้างถึงการโจมตีอิสราเอลแบบกะทันหันที่นำโดยกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
“หากมีความจำเป็น เราก็จะปฏิบัติการในซีเรียด้วย เพื่อให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เข้าใจว่าเราจะไม่ยอมรับการมีอยู่ของพวกเขาในที่นั้นอีกต่อไป” หนังสือพิมพ์ฉบับนี้อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงที่ไม่เปิดเผยชื่อคนหนึ่ง
จนถึงขณะนี้ ดามัสกัส ฮิซบุลเลาะห์ และเทลอาวีฟ ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการใด ๆ เกี่ยวกับคำกล่าวอ้างที่อยู่ในรายงานดังกล่าว
อิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ได้ร่วมกันโจมตีข้ามพรมแดนตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2023 โดยกลุ่มต่อต้านแห่งเลบานอนระบุว่าเพื่อเป็น “แนวร่วมสนับสนุน” ต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 41,400 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน จากการที่อิสราเอลโจมตีดินแดนที่ถูกปิดล้อมอย่างโหดร้าย
อิสราเอลประกาศว่ากำลังขยายสงครามกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์โดยโจมตีเลบานอนมากขึ้น
กองทัพอิสราเอลได้ดำเนินการโจมตีด้วยความรุนแรงและไม่เลือกปฏิบัติตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา โดยคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 500 ราย รวมถึงเด็ก 50 รายและสตรี 95 รายในเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นยอดผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดจากสงครามยุคใหม่ ตามรายงานของนิวยอร์กไทมส์
