โดย : จิตติมา ผลเสวก
เมื่อนึกถึงคนไทยพลัดถิ่นที่อาศัยอยู่ ทางภาคใต้ของไทย ซึ่งมักจะบอกว่าพวกเขานั้นเปรียบเสมือน คนที่มาจากแผ่นดินที่สาบสูญ ฉันไม่มีวันลืมดวงตาหลายคู่ที่ได้พบในหมู่บ้านมะลิวัลย์ หมู่บ้านที่ยังมีคนไทยอาศัยอยู่ตราบทุกวันนี้ ถ้าไม่บอกว่าเรายืนอยู่บน แผ่นดินประเทศพม่า มะลิวัลย์ก็ไม่ต่างจากหมู่บ้านทางใต้ทั่วๆ ไป มีวัด มีทุ่งนา มีชาวบ้าน มีอาหารการกินอย่างวัฒนธรรมชาวใต้ มิผิดแผก
เพียงแค่นั่งเรือโดยสารออกจากท่าเรือสะพานปลา อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ประมาณ 45 นาทีก็ถึงจุดหมายปลายทาง ที่เกาะสองหรือวิคตอเรียพอยท์ ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งของมณฑลตะนาวศรีหรือ ตะนิ้นตายี
ดิวิชั่น สหภาพเมียนมาร์
เกาะสองเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่ง บนเส้นทางการท่องเที่ยวของจังหวัดระนอง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางข้ามแดนจากระนองได้ 2 วิธี คือทำบัตรผ่านแดน ณ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือ วิธีนี้จะอยู่เกาะสองได้ไม่เกิน 7 วัน ออกไปเที่ยวได้ไม่ไกลไปกว่า 5 ไมล์จากตัวเมือง อีกวิธีคือขอวีซ่าจากสถานทูตพม่าที่กรุงเทพฯ ซึ่งสามารถไปเที่ยวได้ทั่วประเทศ ในข้อแม้ว่าต้องเป็นสถานที่ซึ่งทางการ พม่าเปิดให้เข้าได้เท่านั้น
นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่ มาเกาะสองแบบไปกลับ เพื่อซื้อหาสินค้า พื้นเมืองที่วางขายในตลาดใกล้ท่าเรือ หรือไปไหว้พระและชมอนุสาวรีย์บุเรงนองซึ่งตั้งอยู่บนเนิน เป็นจุดที่สามารถชมวิวเกาะสองจากมุมสูง ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มักจะเลยไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ ของพม่า โดยผ่านทางบริษัทท่องเที่ยว บรรยากาศเกาะสองอวลไปด้วยกลิ่นอายพม่า โดยเฉพาะบริเวณตลาดและท่าเรือ ซึ่งจอแจไปด้วยผู้คนและ สินค้า
พม่าเรียกมะลิวัลย์ว่ามะลิยุน ในช่วงที่อังกฤษปกครองพม่าระหว่าง พ.ศ.2367 -2491 มะลิวัลย์มีสถานะเป็นศูนย์กลางการปกครอง ขึ้นตรงต่ออำเภอมะริด มีหมู่บ้านอยู่ในเขต การปกครอง 17 หมู่บ้านด้วยกัน พ.ศ. 2402 มะลิวัลย์มีประชากรราว 733 คน ต่อมากลายเป็นพื้นที่ทำเหมืองจึงมีคนอพยพเข้ามาอยู่เพิ่มขึ้น ข้อมูลในปี 2434 ระบุว่ามีถึง 7,719 คน แต่อีก 10 ปีต่อมาประชากรลดลงเหลือ 5,265 คน ประชากรประกอบด้วยคนไทยซึ่งทำนาเป็นอาชีพหลัก ลูกครึ่งไทยจีนยึดอาชีพทำเหมือง คนมุสลิมและชาวมอแกนทำประมงอยู่ตามชายฝั่ง
หลังมีการทำเหมืองที่มะลิวัลย์ เกิดปัญหาสภาพแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน จึงย้ายศูนย์กลางการปกครองไปอยู่ที่เกาะสอง ปัจจุบันมะลิวัลย์จึงมีสถานะเป็นตำบลอยู่ในอำเภอเกาะสอง จังหวัดมะริด ข้อมูลปัจจุบันที่ได้จากคนไทยมะลิวัลย์บอกว่า ตำบลมะลิวัลย์มีอาณาเขตตั้งแต่หลัก 19 ไมล์ไปจนถึง 31 ไมล์ มีบ้านเรือนทั้งหมด 450 หลังคาเรือน ประชากรประมาณ 10,000 คน ประกอบด้วยชาวมอญ พม่า ทวาย และคนไทยเหลืออยู่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด
นอกจากคำบอกเล่าของคนไทยหลายคน ว่าเกาะสองเมื่อก่อนนี้เป็นของไทย ข้อมูลในเอกสารเก่าแก่ของไทยหลายแห่งก็ กล่าวถึงเกาะสองกับมะลิวัลย์ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของไทย
ยกตัวอย่างจดหมายเหตุประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ ร.ศ.128 เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2452 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้า อยู่หัว รัชกาลที่ 6 เสด็จประพาสโดยทางเรือมาถึงที่ปากน้ำระนองได้ทรงบันทึกไว้ว่า
ทางฝั่งตะวันตกเป็นเขตแดนเมืองมริด ตรงที่เรือจอดออกไปวิกตอเรียปอยต์กับ เกาะวิกตอเรีย ซึ่งไทยเราเรียกว่าเกาะสอง เป็นที่ตั้งที่ว่าการอำเภอมลิวัน นามมลิวันนี้เจ้าคุณรัษฎาอธิบายว่ามีเรื่องเล่ากันมาว่า ลำคลองลดเลี้ยวมากจึงเรียกว่าคลองหลีกสวรรค์ แต่เป็นธรรมดาคนไทยชาวใต้มักพูดตัดคำห้วนๆ ชื่อคลองจึงกลายเป็นหลิหวันไป ภายหลังพม่าเรียกไม่ถูกเรียกเพี้ยนเป็น มลิวน จึงกลายเป็นมลิวันต่อมา
คนไทยมะลิวัลย์ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนพม่า กระทั่งเวลาไทยกับพม่าที่ต่างกันประมาณ 30 นาทีคนไทยที่นี่ก็ยังตั้งนาฬิกาตามเวลาประเทศไทย เหมือนทุกสิ่งอย่างจะหยุดนิ่งไว้ นับตั้งแต่พวกเขาลืมตาตื่นพบว่าผืนดินที่เคยเรียกว่าประเทศไทยได้สาบสูญไป